อาหารธรรมชาติของมนุษย์
อาหารของชนแต่ละชาติในโลกล้วนแตกต่างกันออกไปตามความนิยมของตน มีวิธีการปรุงและรสชาดที่เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ เช่น ชาวยุโรป อเมริกา ชาวตะวันตกทั้งหลาย จะนิยมอาหารที่มีรสอ่อนๆ มักไม่คุ้นกับอาหารของชาวเอเซียซึ่งนิยมรสเข้มข้น ปรุงด้วยเครื่องเทศ มีรสจัดและเผ็ด แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกชาติทุกภาษาในโลกรับประทานได้เหมือนกันหมดก็คือ ผลไม้และผักสดๆแม้ว่าแต่ละชาติจะรับประทานอาหารที่แตกต่างกันในรสชาด แต่ชนทุกชาติทุกภาษาในโลกล้วนชื่นชอบผลไม้และผักสดๆเหมือนกันหมด ฉะนั้นผลไม้และผักสดๆทุกชนิดจึงเป็นอาหารที่แท้จริงของมนุษย์ ทุกชาติทุกภาษาไม่ว่าชนชาติใดก็สามารถรับประทานผักสดผลไม้ได้ทันทีโดยไม่ต้องแยกแยะนำไปปรุงโดยวิธีการใดๆทั้งสิ้น ทุกคนต่างมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่เป็นธรรมชาติแท้อันบริสุทธิ์ ปัจจุบันคำว่า"อาหารธรรมชาติ" หมายถึงอาหารที่ได้มาจากพืชผักผลไม้ล้วนๆ ไม่มีเนื้อสัตว์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสัตว์เจือปนอยู่ ไม่ว่าอาหารนั้นจะเป็นอาหารที่ต้องผ่านการปรุงด้วยความร้อน หรือเป็นอาหารที่สามารถบริโภคทันทีได้จากธรรมชาติโดยตรง การบริโภคอาหารธรรมชาตินี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นแต่อย่างใด มีหลักฐานยืนยันว่าในทุกๆส่วนของโลกไม่ว่าจะเป็นทวีปเอเซีย ยุโรปหรืออเมริกา นับย้อนหลังไปกว่า 3 ถึง 5 พันปี ก็มีบรรดากลุ่มชนผู้ซึ่งดำรงชีวิตอยู่ ด้วยอาหารธรรมชาตินี้แล้ว ผู้คนที่กินอาหารธรรมชาติ เรียกชื่ออาหารประเภทนี้ต่างกันออกไป เช่นอาหารมังสวิรัติ อาหารเจ อาหารเพื่อสุขภาพเป็นต้น แต่ทั้งหมดก็คือการรับประทานอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ทุกชนิด จะมีข้อแตกต่างแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยตามความนิยม หลักการ ความเชื่อถือของชนในแต่ละกลุ่ม เราจัดกลุ่มของผู้บริโภคอาหารธรรมชาติเป็น 3 ลักษณะดังนี้ 1. ประเภทที่กินแต่พืช ผัก ผลไม้ล้วนๆ (VEGAN) ได้แก่ผู้ที่รับประทานอาหารเฉพาะผักผลไม้ ข้าว งา เมล็ดธัญญพืช ถั่วเปลือกแข็งต่างๆบรรดานักบวชโยคีในอินเดียซึ่งรับประทานแต่อาหารที่ไม่ผ่านความร้อนใดๆ และคนที่กินอาหารเจซึ่งไม่รับประทานพืชผักบางชนิด เช่น กระเทียม หัวหอม ก็จัดอยู่ในประเภทนี้ 2. ประเภทที่กินพืชผักผลไม้ทุกชนิด (LACTOVEGYARIAN) และผลิตผลจากสัตว์บางชนิด เช่น น้ำผึ้ง นม และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย นมเปรี้ยว เป็นต้น |